พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการจัดระเบียบทางเท้า เกาะกลางถนน และการให้สิทธิ์เอกชนดำเนินการเกี่ยวกับการติดตั้งป้ายโฆษณาในเขตทางสาธารณะ ได้มีการพิจารณาแนวทางดำเนินการป้ายจราจรอัจฉริยะ จำนวน 40 ป้าย ซึ่งปัจจุบันบริษัทจีเนียส ทราฟฟิค ซิสเต็ม จำกัด ดำเนินการอยู่ ซึ่งตามสัญญาว่าจ้างจะสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคม และได้มีการต่อสัญญาในลักษณะปีต่อปี ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 และผู้บริหารให้ต่อสัญญาชั่วคราว ครั้งที่ 2 ในเดือนพฤษภาคม 2560 โดยระหว่างนี้ได้ให้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ศึกษากำหนดรูปแบบทีโออาร์ใหม่เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โครงการป้ายจราจรอัจฉริยะจำนวน 40 ป้าย เริ่มในสมัยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยให้เอกชนลงทุนติดตั้ง ใช้งบประมาณ 210 ล้านบาท หมดสัญญา 9 ปี ไปเมื่อเดือนเมษายน 2558 และมีการต่อสัญญาครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 ดำเนินการมาถึงปัจจุบัน เป็นป้ายแสดงสภาพการจราจรแบบ Real Time มีข้อมูลตัววิ่งเป็นข้อความประชาสัมพันธ์ภารกิจหรือกิจกรรมโฆษณาต่างๆ ส่งจากศูนย์ไปยังป้ายอัจฉริยะ ด้วยเครือข่ายเคเบิลใยแก้ว ซึ่งจะผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการของสำนักการจราจรและขนส่งก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างทำทีโออาร์ใหม่ โดยจะมีการปรับรายละเอียดให้เข้ากับการสื่อสารบอกข้อมูลการจราจรในปัจจุบันและรองรับเทคโนโลยีในอนาคต รวมถึงพิจารณาแนวทางการจัดการและงบประมาณที่เหมาะสม โดยมีแผนจะพัฒนาป้ายจราจรอัจฉริยะรวมกับจุดจอดแท็กซี่อัจฉริยะ 150 จุด ให้เป็นสถานีแก้ปัญหาจราจรอัจฉริยะ
นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาแนวทางดำเนินการป้ายตอม่อสะพานข้ามแยกรถยนต์ ซึ่งเดิมให้สิทธิเอกชนติดโฆษณาต่างๆ แต่ผู้บริหารชุดที่ผ่านมาได้ยกเลิกไปเมื่อปี 2557 คณะกรรมการฯเห็นว่ามีโครงการเดิมอยู่แล้วจึงให้สำนักการจราจรฯ ศึกษากำหนดทีโออาร์ใหม่เพื่อทำโครงการอีกครั้ง เป็นนโยบายผู้บริหารกทม.ชุดนี้ในการหารายได้เข้ากทม. โดยสำนักการจราจรฯอยู่ระหว่างเร่งกำหนดทีโออาร์ทั้งสองโครงการ นำเสนอผู้บริหาร พิจารณาต่อไป
สำหรับโครงการป้ายจราจรอัจฉริยะ และ จุดจอดแท็กซี่อัจฉริยะ เป็นโครงการในตระกูลอัจฉริยะ 4 โครงการ ประกอบด้วย "ที่จอดรถแท็กซี่อัจฉริยะ -ป้ายจราจรอัจฉริยะ - ป้ายรถเมล์อัจฉริยะ - และที่จอดรถอัจฉริยะ" ที่ใช้เป็นนโยบายหาเสียงของ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่หวังจะแก้ปัญหาจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่ปรากฎว่าโครงการอัจริยะล้มเหลวประสบปัญหาทุกโครงการ
อย่างไรก็ตามโครงการตระกูลอัจฉริยะทั้ง 4 โครงการ เป็นการดำเนินการโดยบริษัทเอกชนทั้งหมด ซึ่งกรุงเทพฯ ไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย เนื่องจากเป็นข้อตกลงกับเอกชนที่ได้รับสิทธิ์ ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการใช้พื้นที่โฆษณาบริเวณจอแสดงผลของแต่ละป้าย โดยป้ายรถเมล์อัจฉริยะมีราคาป้ายละ 300,000 บาท ส่วนการติดตั้งระบบ GPS จะเสียค่าใช้จ่ายเครื่องละ 30,000- 40,000 บาท
รายงานโดย นาตยา เอนกธนะเศรษฐ์ สำนักข่าวทีนิวส์
ที่มา : https://www.tnews.co.th/social/300696, http://thailandindustry.com/